ความสัมพันธ์และผลกระทบของโลกาภิวัตน์ต่อสังคมโลกและมนุษย์
-การดำรงชีวิตของมนุษย์ยุคใหม่ในศตวรรษที่
21
มีการตั้งคำถามกันว่าสังคมโลกยุคใหม่จะถูกกระแสโลกาภิวัฒน์กลืนเข้าสู่วัฒนธรรมสากลหรือวัฒนธรรมโลกหรือไม่วัฒนธรรมประจำชาติหรือวัฒนธรรมท้องถิ่นจะถูกลบล้างไปจนหมดหรือไม่และวัฒนธรรมใดจะเข้ามาแทนที่วัฒนธรรมพื้นจนกลายเป็นวัฒนธรรมโลก
ข้อสมมติฐานว่าวัฒนธรรมของบางประเทศจะเข้าแทนที่วัฒนธรรมอื่นและกลายกลืนจนกลายเป็นวัฒนธรรมโลกนั้นไม่น่าเป็นไปได้สภาวะที่น่าจะเกิดขึ้นคือ
1) วัฒนธรรมของบางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกซึ่งมีระบบการสื่อสารและเครือข่ายการสื่อสารข้าวคลุมไปทั่วโลกยอมเป็นที่รับรู้และเลือกรับปฏิบัติโดยคนในสังคมที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมแบบใหม่มากกว่าสังคมที่มิใช่ผู้นำด้านการคมนาคมสื่อสาร
2) การซึมซับวัฒนธรรมสากลเป็นเรื่องของการเลือกเฉพาะเรื่อง
โดยขณะเดียวกันก็มีการประยุกต์ดัดแปลงให้สอดคล้องหรือผสมผสานกับวัฒนธรรมของแต่ละสังคมด้วย
3) ระดับการเลือกและซึมซับวัฒนธรรมของแต่ละสังคมย่อมแตกต่างกันไป
ขึ้นกับความเข้มแข็งของวัฒนธรรมเดิมโอกาสการรับรู้และเห็นตัวอย่างจากวัฒนธรรมอื่นและบริบทจำกัดของแต่ละสังคม
วัฒนธรรมสากลที่น่าจะเป็นกระแสการเปลี่ยนแปลงหลักน่าจะอยู่ที่วัฒนธรรมการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพการงานของมนุษย์ในสังคมโลก
สภาพแวดล้อมในสังคมโลกยุคใหม่โดยเฉพาะสภาพแวดล้อมทางวัตถุและเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญที่สุดต่อการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตซึ่งขึ้นกับรายได้และความสามารถในการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกดังกล่าวสภาพแวดล้อมดังกล่าวสรุปได้ดังนี้
1)
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนเสริมการทำงานและขณะเดียวกันก็ลดความจำเป็นของการใช้กำลังคนเป็นไปอย่างมาก
นอกจากนี้การทำงานโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยสนับสนุนรองส่งผลให้ความต้องการกำลังคนแตกต่างไปจากเดิม
ในเชิงปริมาณและคุณภาพ
2)
การสื่อสารที่สะดวกรวดเร็วช่วยลดอุปสรรคด้านระยะทาง
ทำให้เริ่มกล่าวขานถึงการทำงานที่ไหนก็ได้ไม่มีการกำหนดชั่วโมงการทำงานเป็นเครื่องกีดกั้นอีกต่อไป
(anywhere,
anytime, workspace)
ความสะดวกดังกล่าวทำให้เกิดการจ้างงานนอกประเทศเพิ่มขึ้น
3)
โลกาภิวัตน์ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ระหว่างกันและเกิดการกำหนดมาตรฐานสินค้าและบริการสากลซึ่งมีผลดีในแง่ของการยกระดับคุณภาพแต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างผู้ผลิตและผู้ให้บริการในแต่ละประเทศรุนแรงขึ้น
4)
การเปิดตลาดเสรีนำไปสู่การเคลื่อนย้ายทุนแรงงานและเทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง
ช่วยให้เกิดการเรียนรู้ระหว่างสังคมมากขึ้นก็นำไปสู่สภาวะความขัดแย้งทางวัฒนธรรมตลาดงานการจัดบริการของรัฐการมีส่วนร่วมของประชากรในระบบพหุวัฒนธรรมรวมทั้งการเหนือเรียกร้องสิทธิต่างๆทั้งโดยประชากรเจ้าของประเทศและประชากรที่เข้ามาพักอาศัย
5)
การหลั่งไหลของสินค้าบริการวิธีการดำรงชีวิตรูปแบบการทำงาน
ส่งผลให้เกิดการยอมรับและยึดถือปฏิบัติที่เป็นสากลมากขึ้นให้เกิดความพยายามปรับตัวของประชากรและการกดดันให้หน่วยงานภาครัฐต้องปฏิรูปการดำเนินการต่างๆให้สอดรับกับระบบสากลหรืออย่างน้อยตามแนวทางของภาคธุรกิจการปรับตัวดังกล่าวย่อมส่งผลต่อความขัดแย้งความไม่พอใจการฝ่าฝืนซึ่งกลายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ
6)
การเข้ามามีส่วนร่วมหรือการแทรกแซงโดยองค์การเหนือชาติ ประเทศอื่น
หน่วยงานภายนอกองค์กรธุรกิจองค์การเอกชนองค์การภาคประชาชนและขบวนการอื่นอื่นในประเทศมีผลเป็นการผลิตรอนอำนาจของรัฐและส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบความสัมพันธ์ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศอย่างสำคัญถึงแม้จะยังไม่แสดงผลที่ชัดเจนแต่ก็ทำให้การดำเนินงานของรัฐบาลเป็นไปด้วยความลำบากกว่าที่เคยเป็น
......................................................................................
คำถามท้ายบทเรียน
1.ผู้คนมักตั้งคำถามในการดำรงชีวิตของคนในยุคใหม่ศตวรรษที่
21 ว่าอย่างไร
2. เห็นด้วยกับข้อสมมติฐานว่าวัฒนธรรมของบางประเทศจะเข้าแทนที่วัฒนธรรมอืนและกลายเป็นวัฒนธรรมโลกหรือไม่
จงอธิบาย
..............................................................................
แหล่งที่มา :
SO ๒๑๓๘
พลเมืองโลกในกระแสโลกาภิวัตน์
โดย : พลเรือตรีรองศาสตราจารย์ทองใบ
ธีรานันทางกูร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น